2025

ในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน การปกป้อง “เครื่องลูกข่าย” หรือ Endpoint (เช่น คอมพิวเตอร์พนักงาน โน้ตบุ๊ก หรือมือถือ) ไม่ใช่แค่ติดแอนตี้ไวรัสก็พออีกต่อไปแล้ว

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ 4 ระดับของระบบรักษาความปลอดภัย Endpoint ที่องค์กรสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับความต้องการ 👇

1. Endpoint Protection (EPP)

✅ ป้องกันไวรัส มัลแวร์ทั่วไป
✅ บล็อกเว็บไซต์อันตราย
❌ ไม่สามารถตรวจจับพฤติกรรมแปลก ๆ หรือวิเคราะห์ย้อนหลังได้
👤 เหมาะกับ: ผู้ใช้งานทั่วไป / องค์กรขนาดเล็ก

2. Endpoint Detection & Response (EDR)

✅ ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ
✅ เก็บ Log วิเคราะห์ย้อนหลัง
✅ ตอบสนองเมื่อพบภัย เช่น กักกันเครื่อง
❌ ต้องมีทีมไอทีหรือเจ้าหน้าที่ดูแลเอง
🏢 เหมาะกับ: องค์กรที่มีทีมความปลอดภัยภายใน

3. Managed EDR (MDR)

✅ ได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ 24/7
✅ แจ้งเตือน-วิเคราะห์-ตอบสนองโดยทีมมืออาชีพ
✅ ลดภาระฝ่าย IT ในองค์กร
🏦 เหมาะกับ: องค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง แต่ไม่มีทีมความปลอดภัยเฉพาะทาง

4. Extended Detection & Response (XDR)

✅ ขยายการตรวจจับจากแค่ endpoint → ครอบคลุม network, email, cloud
✅ วิเคราะห์ภัยที่กระจายหลายระบบพร้อมกัน
✅ มองภาพรวมของการโจมตีทั้งองค์กร
🏛 เหมาะกับ: องค์กรขนาดกลาง-ใหญ่ ที่ต้องการความปลอดภัยระดับองค์รวม

สรุปง่าย ๆ:

• ต้องการแค่ “ป้องกันพื้นฐาน” → EPP
• อยาก “ตรวจจับและตอบโต้ภัย” → EDR
• ไม่มีทีมไอที? ให้มืออาชีพดูแลแทน → Managed EDR
• อยากเห็นทั้งองค์กรในภาพเดียว → XDR

📌 เลือกใช้ให้เหมาะกับระดับความเสี่ยงขององค์กร เพื่อความปลอดภัยที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล

ติดต่อเราได้แล้ววันนี้ เริ่มต้นสร้างความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ 

สามารถติดต่อเราได้ที่ Salessecurity@symphony.net.th หรือหมายเลข 02 101 1111 

LINE Official: @symphonycomm 

ปัจจุบันการตั้งรหัสผ่านที่คาดเดายากอาจไม่เพียงพออีกต่อไป แฮกเกอร์ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อถอดรหัสผ่านและโจมตีระบบ ทำให้ Multi-Factor Authentication (MFA) เป็นมาตรการสำคัญในการเสริมความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ 

Multi-Factor Authentication (MFA) คืออะไร 

MFA คือ กระบวนการยืนยันตัวตนมากกว่าหนึ่งขั้นตอน เช่น ใช้รหัสผ่านร่วมกับ OTP, ลายนิ้วมือ หรือการจดจำใบหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับบัญชีของคุณ 

เหตุใดจึงต้องใช้ MFA? 

แฮกเกอร์สามารถใช้รหัสผ่านที่ขโมยไปในการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลธุรกิจ หรือควบคุมระบบทั้งหมด การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีสามารถช่วยให้แฮกเกอร์ถอดรหัสได้ง่ายขึ้น 

ประโยชน์ของ MFA 

✅ ลดความเสี่ยงจากการถูกขโมยข้อมูล – แม้แฮกเกอร์จะรู้รหัสผ่าน ก็ยังต้องผ่านการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม 

✅ ปกป้องข้อมูลขององค์กร – ป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต 

✅ แจ้งเตือนกิจกรรมที่น่าสงสัย – ระบบสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อพบความพยายามเข้าสู่ระบบที่ผิดปกติ 

ติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาด้าน Cyber Security ได้แล้ววันนี้ที่ salesecurity@Symphony.net.th หรือโทร 02 101 1111  

LINE Official: @symphonycomm  

#ExcellentExperience  

#SymphonyCommunication  

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจต้องพึ่งพา Cloud Computing มากขึ้น การเชื่อมต่อที่มีความปลอดภัย เสถียร และมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ  

Huawei Direct Connect จาก SYMPHONY เป็นบริการโครงข่ายที่สามารถเชื่อมต่อตรงจาก On-premises สู่ Huawei Cloud แทนการเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ต เพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ 

จุดเด่นบริการ 

• เพิ่มความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลผ่านทาง Private Network ลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ 

• การรับส่งข้อมูลที่มีเสถียรภาพและคุณภาพสูงกว่าการเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ต 

• มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเพิ่มความเร็วของโครงข่ายได้ตามต้องการเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ 

• รองรับการเชื่อมต่อ Hybrid Cloud ระหว่าง On-Premises และ Huawei Cloud  

ทำไมต้องเลือกใช้ Huawei Direct Connect จาก SYMPHONY 

• SYMPHONY เป็นพาร์ทเนอร์ที่ได้รับการรับรองจาก Huawei Cloud การันตีด้วยทีมงานที่ได้รับการฝึกอบรมและมีประสบการณ์ มั่นใจได้ในคุณภาพและความเชี่ยวชาญ 

• เชื่อมต่อตรงกับ Huawei Direct Connect location ทุกจุดในประเทศไทย  

• บริการที่ครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบโซลูชัน ติดตั้ง และบริการหลังการขาย One-Stop Service 

• ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย SDN-MPLS มาใช้ในการบริหารจัดการโครงข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมีความหน่วงต่ำ (Latency ต่ำ) 

• SYMPHONY มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ให้คุณมั่นใจว่าระบบเครือข่ายของคุณได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง 

เริ่มต้นใช้งานวันนี้! เพื่อยกระดับความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจคุณทันที 

อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาและข้อมูลเพิ่มเติม 

Cloud@symphony.net.th หรือโทร 02 101 1111  

LINE OA : @symphonycomm  

#ExcellentExperience 

#SymphonyCommunication 

#DirectConnect 

ในปัจจุบัน ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่มาจากช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล เว็บไซต์ และช่องทางออนไลน์อื่นๆ มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน หลายองค์กรยังขาดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

Symphony Communication ขอนำเสนอบริการ Managed Endpoint Detection and Response (MEDR) ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับองค์กร โดยมีบริการหลักดังนี้: 

1. ตรวจจับภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ 
   ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการตรวจจับและแจ้งเตือนภัยคุกคามบนอุปกรณ์ Endpoint ทันทีที่พบ 

2. ตอบสนองต่อภัยคุกคาม 
   ทีมผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมวิเคราะห์และให้คำแนะนำในการจัดการกับภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น 

3. บริหารจัดการแบบ 24/7 
   มั่นใจในความปลอดภัยด้วยทีมงานที่พร้อมดูแลระบบของคุณตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน 

4. รายงานและวิเคราะห์ภัยคุกคาม 
   จัดทำรายงานเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ตรวจพบ พร้อมคำแนะนำเพื่อพัฒนาระบบป้องกันในอนาคต 

5. ให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยไซเบอร์ 
   ช่วยองค์กรวางแผนและปรับปรุงมาตรการป้องกันภัยคุกคามในระยะยาว เพื่อความมั่นคงในทุกสถานการณ์ 

บริการ MEDR จาก Symphony Communication ช่วยให้องค์กรของคุณสามารถรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน พร้อมทั้งลดภาระงานและค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบความปลอดภัย และเรามอบการรับประกันภัยคุกคามของ Ransomware 

ติดต่อเราได้แล้ววันนี้ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ MEDR และเริ่มต้นสร้างความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ 

สามารถติดต่อเราได้ที่ Salessecurity@symphony.net.th หรือหมายเลข 02 101 1111 

LINE Official: @symphonycomm