Cloud คืออะไร แล้ว Cloud แบบไหนเหมาะกับเรา

หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า Cloud มาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Cloud Computing หรือ Cloud Service ซึ่งเรามักจะรู้จักในลักษณะของบริการฝากไฟล์ข้อมูล รูปภาพหรือเอกสารจากผู้ให้บริการต่างๆ เช่น Google Drive จาก Google หรือ OneDrive จาก Microsoft โดยอาจเป็นการให้บริการฟรีหรือพ่วงมากับบริการอื่นๆ แต่อันที่จริงแล้ว Cloud Service นั้นสามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่าแค่เป็นเพียงพื้นที่จัดเก็บไฟล์ทั่วๆ ไปที่เราคุ้นเคยกัน

แล้ว Cloud Computing คืออะไร?

Cloud Computing คือการให้บริการทรัพยากรทางด้านคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงได้ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยผู้ให้บริการจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานบน Data Center ที่ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (Cloud Server) ที่ซับซ้อนจำนวนมากด้วยการเข้าถึง Cloud ได้จากทุกที่บนโลกเพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป และการที่รวบรวมทรัพยากรคอมพิวเตอร์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ทำให้สามารถเลือกเพิ่มหรือลดการใช้งานได้ตามต้องการ โดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์เพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต นอกจากนี้ยังไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลอุปกรณ์เพราะเป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการ ทำให้ Cloud Service ได้รับความนิยมในหลายกลุ่มธุรกิจ

Cloud Computing แบบไหนที่เหมาะกับเรา?

เราสามารถแบ่ง Cloud Computing ออกเป็น 3 แบบตามลักษณะการใช้งาน โดยแต่ละแบบนั้นจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตุประสงค์การใช้งาน

  1. Public Cloud : คือบริการ Cloud Computing ที่จะใช้ทรัพยากรต่างๆ จากผู้ให้บริการเช่น ระบบ Hardware เสมือน ระบบโครงข่ายหรือ Network และระบบ Software ร่วมกันกับผู้ใช้งานอื่นๆ แต่จะไม่สามารถเข้าถึงระหว่างกันได้หากไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะมีระบบรักษาความปลอดภัย เช่น Cloud Firewall เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยการใช้งานจะเป็นแบบ Pay-as-You-Go หรือจ่ายตามการใช้งานจริง เหมาะกับการที่มีการเพิ่ม-ลดขนาดทรัพยากรบ่อยๆ หรือต้องรองรับการใช้งานจำนวนมากพร้อมๆ กัน เช่น Web Application ต่างๆ
  2. Private Cloud : คือบริการ Cloud Computing ที่จัดสรรทรัพยากรให้ใช้แบบส่วนตัวโดยไม่ต้องแบ่งหรือใช้ร่วมกับผู้อื่น แต่องค์กรจะต้องลงทุนด้านทรัพยากรทั้งหมด โดยผู้ให้บริการจะดูแลระบบให้ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การออกแบบตามความต้องการใช้งาน การติดตั้ง ความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานที่เน้นในเรื่องการรักษาความปลอดภัยหรือการเก็บข้อมูลที่เป็นความลับ
  3. Hybrid Cloud : คือบริการ Cloud Computing ที่รวมเอาข้อดีของ Public Cloud และ Private Cloud ไว้ด้วยกัน โดยมีการทำงานทั้ง 2 ระบบตามความเหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน

ทั้งนี้ ไม่ว่าจะใช้งาน Cloud รูปแบบไหนต่างต้องใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงการใช้งาน ซึ่ง Symphony มีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุม สามารถเข้าสู่ Data Center ชั้นนำได้หลากหลายเส้นทาง ตอบโจทย์การใช้งาน Cloud ทุกประเภท นอกจากนี้ยังมี Symphony Cloud Service ที่จะคอยให้คำแนะนำในการใช้งาน Cloud ทุกรูปแบบ อุ่นใจกว่าด้วยการให้บริการแบบ One Stop Service ดูแลตั้งแต่ระบบโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไปจนถึงการใช้งาน Cloud แบบไร้รอยต่อ

สนใจบริการติดต่อ 02 101 1111 หรือ E-mail : Cloud@symphony.net.th