2025

2025

สร้าง Private AI ภายในองค์กรอย่างปลอดภัย 100% ด้วย AI Inference + RAG 

สร้าง Private AI ภายในองค์กรอย่างปลอดภัย 100% ด้วย AI Inference + RAG 

นวัตกรรมใหม่สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยของข้อมูล 

ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจ การใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่กระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลภายในองค์กร กลายเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง AI Inference และ RAG (Retrieval-Augmented Generation) คือเทคโนโลยีคู่ขนานที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้อย่างตรงจุด 

AI Inference คือ การนำโมเดล AI ที่ผ่านการฝึกด้วยข้อมูลชุดเก่าหรือชุดปัจจุบัน มาประมวลผลกับข้อมูลชุดใหม่ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและมีประโยชน์ เปรียบเสมือนการนำ “ประสบการณ์” ที่ AI เคยเรียนรู้จากอดีต มาใช้ในการตัดสินใจ ตอบคำถาม หรือพยากรณ์สิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น 

RAG (Retrieval-Augmented Generation) คือเทคนิคที่ช่วยให้ AI สามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลเฉพาะขององค์กรในการตอบคำถามหรือสร้างเนื้อหาได้อย่างตรงประเด็น เปรียบเสมือนการสร้าง “ห้องสมุดส่วนตัว” ที่มีข้อมูลสำคัญขององค์กรให้กับ AI ทำให้ AI สามารถดึงข้อมูลมาใช้ได้อย่างแม่นยำ เมื่อ AI ได้รับคำถาม จะค้นหาข้อมูลจาก “ห้องสมุด” นี้ จากนั้น AI จะใช้ข้อมูลที่ค้นหาได้มาสร้างคำตอบที่แม่นยำและตรงประเด็นให้กับผู้ใช้งาน 

การสร้าง Private AI สำหรับองค์กร 
การทำงานร่วมกันระหว่าง AI Inference และ RAG ช่วยให้องค์กรสามารถสร้าง Private AI ในระบบส่วนตัวขององค์กร (On-premise) และใช้ RAG เพื่อสร้างห้องสมุดส่วนตัวให้กับ AI เพื่อให้ AI สามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะขององค์กรได้อย่างปลอดภัย ป้องกันข้อมูลที่สำคัญขององค์กรรั่วไหลออกสู่ภายนอกได้ 

ข้อดีของการมี Private AI 
– สามารถรักษาความลับข้อมูล: ป้องกันข้อมูลสำคัญขององค์กร ไม่ให้ถูกส่งออก หรือรั่วไหลออกไปภายนอกองค์กรได้ 
– ควบคุมความปลอดภัยได้เต็มที่: องค์กรสามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลและควบคุมการใช้งาน AI ได้อย่างเหมาะสม 
– ตอบคำถามด้วยข้อมูลองค์กรอย่างแม่นยำ: AI สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและเกี่ยวข้องกับองค์กร ทำให้ได้คำตอบที่แม่นยำและตรงประเด็น 

ตัวอย่างการใช้งานจริงในองค์กร 
– AI ผู้ช่วยด้านกฎหมาย: ตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบาย HR หรือข้อกำหนดทางกฎหมายจากเอกสารภายใน ช่วยลดภาระงานของทีมกฎหมายได้อย่างมาก 
– AI ผู้ช่วยงานขาย: สรุปคุณสมบัติสินค้าและข้อเสนอขายจากเอกสารภายใน ช่วยให้ฝ่ายขายสามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ 
– AI ผู้ช่วยงานประชุม: สรุปประเด็นสำคัญจากไฟล์เสียงการประชุม ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ 

การผสาน AI Inference เข้ากับ RAG ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งาน AI ได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง ควบคุมข้อมูลได้ 100% ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และตอบโจทย์ความต้องการด้าน Compliance และ Data Privacy ได้อย่างลงตัว 

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาโซลูชัน Private AI ที่น่าเชื่อถือและใช้งานได้จริง 

ติดต่อทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Symphony ได้เลยวันนี้ 

📩 อีเมล: sales@symphony.net.th 

 📞 โทร: 02 101 1111 

 LINE Official: @symphonycomm 

2025, 2025

เสริมศักยภาพและยกระดับความต่อเนื่องทางธุรกิจ ด้วยบริการ SYMPHONY CLOUD

SYMPHONY CLOUD บริการคลาวด์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ Workload และ Application สำคัญขององค์กรคุณ ให้ดำเนินธุรกิจได้อย่าง คล่องตัว เติบโต และปลอดภัย ผ่านมุมมองของ คุณธนวัฒน์ วิวัฒน์พาณิชย์ – Head of Cloud Business Unit ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud ที่พร้อมแชร์ประสบการณ์และแนวคิดการพัฒนา Cloud Infrastructure ให้รองรับทุกความต้องการขององค์กร

🎥 ในวิดีโอสัมภาษณ์พิเศษนี้ คุณจะได้พบกับ:

✅ จุดเด่นของ SYMPHONY CLOUD ที่ช่วยให้ธุรกิจคล่องตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคง

✅ เบื้องหลังการดูแลระบบด้วยบุคลากรที่มีประสบการณ์และ Framework ตามมาตรฐานสากล

✅ การใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยจากพาร์ทเนอร์ระดับโลก ที่ช่วยยกระดับระบบ Cloud ของคุณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

📩 ยกระดับธุรกิจของคุณสู่โลกดิจิทัลกับ SYMPHONY CLOUD

📧 Cloud@symphony.net.th | ☎️ 02 101 1111

📱 LINE OA : @symphonycomm

2025, 2025

SYMPHONY ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมสู่ SLA 99.95% End-to-End พร้อมการันตีแก้ไขเหตุขัดข้องใน 3 ชั่วโมง

บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMPHONY ผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมชั้นนำ ประกาศยกระดับ Service Level Agreement หรือ SLA (มาตรฐานการให้บริการ) ที่ระดับ 99.95% ครอบคลุมการเชื่อมต่อแบบครบวงจร (End-to-End) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ช่วยลดระยะเวลาหยุดทำงาน (Downtime) และเป็นรายแรกที่รับประกันการแก้ไขปัญหาภายใน 3 ชั่วโมง (MTTR – Mean Time to Repair)

การพัฒนานี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SYMPHONY ในการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และโครงข่ายอัจฉริยะผ่าน Software-Defined Network (SDN) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบสำหรับลูกค้าองค์กร โดย SLA ที่ยกระดับนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักทางธุรกิจ ป้องกันการเสียโอกาสทางธุรกิจของลูกค้า และเสริมศักยภาพการเติบโตในยุคดิจิทัล

นายอเล็กซ์ โลห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SYMC กล่าวถึงความภาคภูมิใจในความสำเร็จครั้งนี้ว่า “SLA 99.95% End-to-End เป็นการยกระดับเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า ผ่านโครงข่ายที่แข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพสูง และมีเสถียรภาพของบริการอย่างแท้จริง ลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ส่งผลให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว”

สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้า

การยกระดับมาตรฐานบริการ SLA 99.95% End-to-End นี้จะช่วยรับประกันคุณภาพของบริการโครงข่าย โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มองค์กรที่ต้องการการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจด้านการเงิน การจัดการด้านความปลอดภัยของข้อมูล การรับส่งหรือการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่  รวมถึงบริการคลาวด์คอมพิวติง เป็นต้น การลดช่วงเวลา downtime ให้เหลือน้อยที่สุด จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าองค์กรและเสริมศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาด

นายภูมรินทร์ อินวงค์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงาน Customer​​s & Service Operation ของ SYMC กล่าวว่า การยกระดับ SLA จาก 99.90% เป็น 99.95% ของเราครอบคลุมการเชื่อมต่อแบบครบวงจร ไม่เพียงเฉพาะโครงข่ายหลัก (Backbone) เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง รวมถึงอุปกรณ์ Customer Premise Equipment หรือ Router ด้วยมาตรฐานใหม่นี้จะสร้างความมั่นใจและช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ผ่านการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพและมีเสถียรภาพสูงสุด

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี

เพื่อรองรับ SLA ที่เพิ่มขึ้นนี้ SYMPHONY ได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายพื้นที่การให้บริการในต่างจังหวัด การอัปเกรดอุปกรณ์ส่งสัญญาณของโครงข่ายหลักให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเพิ่มเส้นทางโครงข่ายหลักมากกว่าสองเส้นทางทั่วประเทศ เพื่อเสริมความเสถียรของโครงข่าย และครอบคลุมการเชื่อมต่อไปยังดาต้า เซนเตอร์ชั้นนำในประเทศไทย นอกจากนี้ SYMPHONY ยังได้เพิ่มและอัปเกรดอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตเกทเวย์จุดเชื่อมต่อ (POP Sites) ที่กรุงเทพฯ สิงคโปร์ และฮ่องกง โดยเพิ่มจำนวนและความหลากหลายของเส้นทางการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมขยายแบนด์วิธเพื่อรองรับการใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

การรับประกันการแก้ไขปัญหาของบริการภายใน 3 ชั่วโมง แสดงถึงความมุ่งมั่นของ SYMPHONY ในการมุ่งพัฒนากระบวนการทำงานให้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงประกอบกับมาตรฐานใหม่ SLA 99.95% End-to-End ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจทุกขนาด สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นใจด้วยการเชื่อมต่อที่มีความเสถียรและมีความปลอดภัยสูง ส่งเสริมการเติบโตธุรกิจของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

2025, 2025

ยกระดับธุรกิจด้วย SYMPHONY CLOUD x HPE GreenLake – คลาวด์ที่ตอบโจทย์ทุกมิติ

SYMPHONY CLOUD ร่วมมือกับ HPE GreenLake นำเสนอโซลูชันคลาวด์ระดับองค์กรที่ตอบโจทย์ครบทุกด้าน ทั้ง ความเร็ว ความยืดหยุ่น และ ความปลอดภัย

ให้ธุรกิจของคุณมุ่งสู่อนาคตด้วยแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ พร้อมความล้ำสมัยจาก HPE GreenLake

💬 ติดต่อเราวันนี้ เพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจของคุณสู่ยุคดิจิทัลแบบไร้ขีดจำกัด

📧 Email: Cloud@symphony.net.th

📞 โทร: 02 101 1111

📱 LINE Official: Symphonycomm

SYMPHONY CLOUD คือคำตอบสำหรับทุกธุรกิจของคุณ

#ExcellentExperience

#SymphonyCommunication